มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว Mitsubishi Xpander Cross 2023 ใหม่!

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว  Mitsubishi Xpander Cross 2023 รถยนต์เอสยูวี 7ที่นั่ง รุ่นไมเนอร์เชนจ์ใหม่ ถูกสร้างขึ้นจากแนวคิดที่ว่า ‘Live Fife Adventure’ เพราะชีวิตไม่ได้มีแค่มุมเดียว

 

ดีไซน์ภายนอกโฉบเฉี่ยวหรูหรา ด้วยรูปลักษณ์ใหม่ดีไซน์ด้านหน้าแบบ Advanced Dynamic Shield พร้อมชุดไฟหน้าแบบ LED ทั้งระบบ ทั้งชุดไฟหน้า ไฟเลี้ยวและไฟตัดหมอก รวมถึงเปลี่ยนชุดไฟตัดหมอกจากเดิมทรงกลมมาเป็นแบบทรงสี่เหลี่ยมแบบใหม่ กันชนหน้าเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้ใหญ่ขึ้น  เสริมความโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยสปอร์ตทูโทนขนาด 17 นิ้ว พร้อมยางที่ใหญ่ขึ้น และซุ้มล้อแบบ “ครอสดีไซน์” สุดเท่ไม่ซ้ำใคร ยังเพิ่มความเฉียบคมภายนอกด้วยหลังคาสีดำ และราวหลังคาสีดำ 

สีตัวถังมีให้เลือก 4 สี  คือ สีเขียว, สีขาวมุก, สีเงิน  และ สีเทา

มีสีทูโทนอีก 2 สไตล์ คือ สีเขียวหลังคาดำ และ สีขาวหลังคาดำ

ภายในห้องโดยสารของ Mitsubishi Xpander Cross 2023 ยังคงมาในแบบ 3แถว 7ที่นั่ง กว้างขวางสะดวกสบาย ตกแต่งเน้นความหรูหรา เบาะหนังหุ้มด้วยหนังสีทูโทน ดำ-น้ำเงิน คุณสมบัติสะท้อนความร้อน คอนโซลดีไซน์ใหม่ พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ LCD ขนาด 8นิ้ว พวงมาลัยหุ้มหนังดีไซน์ใหม่ พร้อมสวิตซ์ควบคุมระบบล็อกความเร็ว สวิตซ์ความคุมเครื่องเสียง และปุ่มรับสาย-วางสายโทรศัพท์ ผู้โดยสารจะเพลิดเพลินกับเทคโนโลยีมากมาย อาทิเช่น หน้าจอระบบสัมผัสขนาด 9นิ้ว รองรับ Bluetooth เชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto ช่องต่ออุปกรณ์ USB-A และ USB-C ระบบปรับอากาศด้านหลังแบบแยกอิสระสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง กระจกมองหลังตัดแสงสะท้อนอัตโนมัติ และระบบปรับอากาศแบบดิจิตอลที่มีแผ่นกรองอากาศ PM 2.5

Mitsubishi Xpander Cross 2023  ยังยกระดับความปลอดภัย โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีเสริมความปลอดภัยขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) ที่ช่วยควบคุมการขับเคลื่อนให้เข้าโค้งได้กระชับแม่นยำ ปลอดภัยกว่าด้วยการควบคุมการขับเคลื่อนและการเบรกของล้อหน้าด้านซ้ายและด้านขวา เพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้งและรักษาเสถียรภาพการขับขี่ได้ดีบนถนนที่เปียกลื่น ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ถุงลมนิรภัยคู่หน้า คานเหล็กนิรภัยกันกระแทกบริเวณแผงประตู ด้วยระยะความสูงจากพื้น 220 มิลลิเมตร ทำให้รถรุ่นนี้โดดเด่นเหนือกว่ารุ่นอื่นๆในประเภทเดียวกัน ทัศนวิสัยที่ดีและการขับขี่ที่เหนือกว่า ระบบกันสะเทือนที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงใหม่ ให้ความนุ่มนวล นั่งสบาย และยึดเกาะถนนเป็นอย่างดี มั่นใจในการขับขี่ทุกสภาพถนน

เครื่องยนต์ของ Mitsubishi Xpander Cross 2023  เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ MIVEC DOHC 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตรที่ 4,000 รอบ/นาที พร้อมระบบเกียร์อัตโนมัติ ECO-Dynamic CVT ตอบสนองการทำงานกับเครื่องยนต์อย่างรวดเร็ว นุ่มนวล และประหยัดน้ำมัน

Mitsubishi Xpander Cross 2023 ใหม่! วางจำหน่ายที่ราคา 946,000 บาท ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นเพียง 7,000 บาทจากรุ่นเดิม

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว “เอ็มแคร์” โปรแกรมบริการหลังการขาย ภายใต้สโลแกน “เอ็มแคร์ ดูแลกันยาวๆ” มอบสิทธิพิเศษมัดใจลูกค้า

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว เอ็มแคร์ (M-Care) โปรแกรมบริการหลังการขาย ภายใต้สโลแกน เอ็มแคร์ ดูแลกันยาวๆ พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่นำรถมารับบริการเช็คระยะ ด้วยแนวคิด “ยิ่งเข้าเช็คระยะต่อเนื่อง ยิ่งได้รับสิทธิพิเศษมากกว่า”

นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานขาย บริการหลังการขาย และการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ให้ความสำคัญต่อการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าในด้านบริการหลังการขาย โดยเอ็มแคร์ ถือเป็นการต่อยอดจากงานบริการที่เรามอบให้แก่ลูกค้าตลอดมา ด้วยมาตรฐานการบริการที่ยอดเยี่ยม นำเสนออะไหล่แท้ ให้บริการโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการ ด้วยเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่ารถยนต์มิตซูบิชิทุกคันจะพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ด้วยค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง และประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น

ลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ ที่เป็นสมาชิก “เอ็มแคร์” จะได้รับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษสำหรับการใช้บริการในครั้งต่อไป ตามระดับของสมาชิกที่แบ่งออกเป็น 6 ระดับ ตั้งแต่ระดับ Silver ไปจนถึงระดับ Platinum+ โดยลูกค้าจะได้รับการเลื่อนระดับสมาชิกเพื่อรับสิทธิพิเศษที่เพิ่มมากขึ้น ตามจำนวนครั้งที่นำรถเข้ารับบริการเช็คระยะต่อเนื่อง ณ ศูนย์บริการมาตรฐานของผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ทั้งนี้ ลูกค้ารถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี จะได้รับสิทธิพิเศษเป็นสมาชิกเอ็มแคร์ ระดับ Platinum+ ซึ่งเป็นสมาชิกระดับสูงสุดตลอดการใช้งาน  เพื่อสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนเป็นกลางอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ สมาชิก “เอ็มแคร์” จะประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 6 ระดับ ดังนี้

  • ระดับ Silver (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 5 – 6 ครั้ง)
  • ระดับ Silver+ (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 7- 8 ครั้ง)
  • ระดับ Gold (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 9 – 10 ครั้ง)
  • ระดับ Gold+ (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 11 – 12 ครั้ง)
  • ระดับ Platinum (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 13 – 14 ครั้ง)
  • ระดับ Platinum+ (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 15 ครั้ง ขึ้นไป)

พิเศษสำหรับช่วงเปิดตัวโปรแกรม เอ็มแคร์ (M-Care) ลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน M-Drive เพื่อเป็นสมาชิก เอ็มแคร์และรับสิทธิพิเศษ ได้ที่ http://www.mitsubishi-motors.co.th/th/m-drive-application  และเมื่อเข้ารับบริการหลังการขาย ณ ศูนย์บริการมิตซูบิชิ ลูกค้าจะได้รับคูปองส่วนลดจากทุกการใช้จ่ายครบทุก 500 บาท สำหรับอะไหล่ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์หล่อลื่น อุปกรณ์ตกแต่ง โดยข้อเสนอสุดพิเศษนี้ สำหรับลูกค้ามิตซูบิชิ ที่เป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น ตั้งแต่วันนี้ ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2566 พร้อมติดตามสิทธิพิเศษต่างๆ จากโปรแกรม เอ็มแคร์ ได้ที่เว็บไซต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย https://www.mitsubishi-motors.co.th  ติดต่อสอบถามข้อมูลที่ศูนย์บริการมิตซูบิชิ ทั่วประเทศ หรือมิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดให้บริการทุกวัน ระหว่างเวลา 8:30 – 17:00 น.

มิตซูบิชิไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส ขึ้นแท่นคว้า “อันดับ 1 รถใหม่คุณภาพสูง”

มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส คว้าอันดับ 1 รถใหม่คุณภาพสูง จากการสำรวจ เจ.ดี พาวเวอร์ ประจำปี 2565 (J.D. Power 2022 Thailand Initial Quality Study หรือ IQS) ตอกย้ำจุดแข็งในฐานะสุดยอดรถคุณภาพในกลุ่มรถกระบะ 4ประตู 

การสำรวจคุณภาพรถใหม่ในประเทศไทยของ เจ.ดี. พาวเวอร์ ประจำปี 2565 จัดทำขึ้นระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกันยายน 2565 ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ จำนวน 5,419 คนในช่วงเวลา 6 เดือน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2564 ถึงเดือนสิงหาคม 2565 ครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ และรถอเนกประสงค์ทั้งหมด 77รุ่น จาก 11 ยี่ห้อ

นางสาวมณีณัฐฐา จิระเสวีจินดา ผู้อำนวยการงานวิจัยฝ่ายยานยนต์ส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นีสเส็น ไอคิว กล่าวว่า “มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส ได้รับการจัดอันดับสูงสุดให้เป็นสุดยอดรถคุณภาพ ในกลุ่มรถกระบะ 4 ประตู ซึ่งได้รับความพึงพอใจจากผู้ขับขี่ด้วยจุดเด่นหลายประการที่ยอดเยี่ยมกว่าค่าเฉลี่ยของรถกระบะในกลุ่มเดียวกัน เช่น ควบคุมง่าย ขับขี่สบายและคล่องตัว รวมถึงห้องโดยสาร มีการป้องกันเสียงรบกวนอย่างดี รวมถึงมีสัญญาณคลื่นวิทยุที่ชัดเจน”

มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส เป็นรถที่ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ด้วยฟังก์ชันการทำงานที่ครบครัน  ผสานความแข็งแกร่งทนทาน สมรรถนะการขับขี่เหนือชั้นลุยได้ทุกสภาพถนน ระบบความปลอดภัยล้ำสมัย มั่นใจได้ทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ “ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดรฟ์ II” (Super Select 4WD II) อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จากผลสำรวจของ เจ.ดี. พาวเวอร์ ในครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จได้เป็นอย่างดี และสะท้อนความมุ่งมั่นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ ที่ทุ่มเทสร้างสรรค์ยานยนต์คุณภาพสูง ด้วยสมรรถนะการขับขี่เป็นเลิศ พร้อมความปลอดภัยที่เหนือกว่า

ยางรถยนต์แตกลายงาเกิดจากอะไร จำเป็นต้องเปลี่ยนเลยหรือไม่?

ยางแตกลายงาคือ ร่องรอยที่เกิดขึ้นบริเวณหน้ายางและแก้มยาง เป็นรอยร้าวขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วไป สามารถเกิดขึ้นได้กับยางทุกประเภท ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซด์ ไม่เว้นแม้รถจักรยาน ส่วนมากจะพบรอยแตกในยางที่มีอายุการใช้งานมาหลายปี หรือจอดทิ้งไว้กลางแดดร้อนๆเป็นเวลานาน ลักษณะแบบนี้เรียกว่า Aging หรือยางที่มีอายุมาก

สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการแตกลายงา คือความร้อนจากแสงแดดมากระทบกับพื้นคอนกรีต ทำให้อุณหภูมิที่พื้นสูง ส่งผลให้สารเคมีในเนื้อยางเกิดการเสื่อมสภาพ ทำให้ยางยืดหดตัวและเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นอากาศ ทำให้เนื้อยางแตกร้าว

จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือไม่ แนะนำให้พิจารณาจาก 3 ปัจจัยต่อไปนี้

  1. ความลึกของรอยแตกลายงา หากยากแตกลึกจนเห็นโครงสร้างภายใน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้ายางหรือแก้มยาง ก็ถือว่าเป็นอันตรายมาก ควรนำรถเข้ารับการเปลี่ยนยางโดยเร็ว
  2. พิจารณาประกอบกับอายุของยาง ควรเปลี่ยนยางที่อายุเกิน 3 ปี หรือผ่านการขับขี่มากกว่า 50,000 กิโลเมตร ยิ่งมีร่องรอยแตกลายงา แสดงว่ายางนั้นเสื่อมสภาพแล้ว
  3. พิจารณาประกอบกับความลึกของยาง หากดอกยางมีความลึกน้อยกว่า 1.6 มิลลิเมตร แสดงว่าได้เวลาเปลี่ยนยางเส้นใหม่ สามารถวัดได้โดยใช้เกจวัดความลึกของร่องดอกยาง หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านอะไหล่ หรือง่ายกว่านั้นให้ใช้เหรียญบาทเสียบไปในร่องยาง หากความลึกน้อยกว่าครึ่งของเหรีญบาท แสดงว่ายากสึกหรอต้องเปลี่ยน

รถติดไฟแดง เกียร์ออโต้ต้องเข้าเกียร์อะไร ระหว่าง N กับ P ?

การหยุดรอสัญญาณไฟแดง เป็นการหยุดเพียงไม่กี่วินาที หากเราติดไฟแดงไม่นาน ประมาณ 10-30 วินาที อาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์ แต่ต้องระมัดระวังเหยียบเบรกไว้ตลอดเวลา  แต่ถ้าต้องติดเป็นเวลานาน 1-2 นาทีอาจเปลี่ยนจากเกียร์ D มาเป็น N ได้พร้อมกับดึงเบรกมือไว้ป้องกันรถไหล

ส่วนเกียร์ P ไว้สำหรับการจอดที่ดับเครื่องยนต์เมื่อเราถึงจุดหมายปลายทางแล้ว อาจไม่ถูกต้องนักถ้าจะเข้าเกียร์ P ขณะติดไฟแดง เพราะรถจะไม่สามารถขยับได้หากเกิดอุบัติเหตุมีรถคันอื่นมาชนท้าย นอกจากรถเราจะเสียหายแล้ว อาจทำให้ชุดเกียร์พังได้เช่นกัน