เรื่อง

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ร่วมฉลองชัยชนะครั้งแรกของรถออล-นิว ไทรทัน แรลลี่คาร์ ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่ อาร์ท คว้ารางวัลชนะเลิศประเภททีม จากศึกแรลลี่สุดหฤโหด “เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2023” พร้อมจัดแสดงรถแข่ง ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ที่งาน Big Motor Sale 2023

กรุงเทพฯ – 25 สิงหาคม 2566: บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองชัยชนะจากการแข่งขัน “เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2023” ตอกย้ำจิตวิญญาณของความเร้าใจสไตล์มอเตอร์สปอร์ต ด้วยดีเอ็นเอสายเลือดแชมป์แรลลี่ ที่โชว์ศักยภาพขีดสุดของสมรรถนะออล-นิว ไทรทัน โดยทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศประเภททีม ซึ่งเป็นชัยชนะครั้งแรกของรถออล-นิว ไทรทัน แรลลี่คาร์ โดยรถแข่งทั้งหมดของทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท สามารถเข้าเส้นชัยและทำเวลาได้ดีกว่าทีมอื่นๆ ที่ส่งรถเข้าแข่งขัน 2 คันขึ้นไป การคว้าชัยในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงสมรรถนะ ความแข็งแกร่ง และความทนทานของออล-นิว ไทรทัน ในการแข่งขันที่เต็มไปด้วยความท้าทายได้อย่างยอดเยี่ยม

ในศึก “เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2023” รถแข่งหมายเลข #101 ขับแข่งโดย “โอห์ม” ชยพล โยธา โดยมี “ต่อ” พีรพงษ์ สมบัติวงศ์ เป็น Co-driver คู่ใจ ร่วมกันคว้ารางวัลอันดับที่ 3 ประเภทบุคคล มาได้สำเร็จ ขณะที่ มร. คัตซูฮิโกะ ทากูชิ และ มร. ทาคาฮิโระ ยาสุอิ จากประเทศญี่ปุ่น พร้อมออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน หมายเลข #112 เข้าสู่เส้นชัยในอันดับที่ 8 ถือเป็นความสำเร็จที่ยอดเยี่ยมซึ่งทำให้ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่อาร์ท สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศประเภททีมมาครอง พร้อมตอกย้ำสมรรถนะที่เหนือกว่าของ รถกระบะรุ่นใหม่ ด้วยผลงานของ มร. ริฟัต ซุงการ์ จากอินโดนีเซีย และชูพงศ์ ชัยวรรณ กับออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน หมายเลข #106 ที่เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 32 โดยทั้งคู่ยังสามารถทำเวลาเข้าเส้นชัยในอันดับสูงสุดในการแข่งขันวันที่ 5 (SS 5) อีกด้วย ทั้งนี้ การแข่งขันเอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2023 ได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 – 19 สิงหาคม 2566 ในประเทศไทย และ สปป.ลาว

มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เราทุกคนภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จของทีมมิตซูบิชิ แรลลี่ อาร์ท และสมรรถนะของ ออล-นิว ไทรทัน ที่ได้รับการปฏิวัติมาใหม่ทุกอณู รางวัลที่ทีมมิตซูบิชิ แรลลี่ อาร์ท คว้ามาครองและผลงานของนักแข่ง แสดงถึงศักยภาพของออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ทั้งในด้านสมรรถนะและความทนทาน แม้จะมีระยะเวลาการเตรียมตัวที่ค่อนข้างจำกัด ผลลัพธ์อันน่าภาคภูมิใจนี้ที่ได้สะท้อนถึงสมรรถนะที่เหนือกว่าของรถกระบะรุ่นใหม่นี้ได้เป็นอย่างดี และเมื่อผสานกับความสามารถของนักแข่งและทีมงานสนับสนุน เราหวังว่าจะสามารถคว้าแชมป์ในปีหน้าได้สำเร็จ และที่สำคัญ เราจะใช้ข้อมูลและประสบการณ์จากการแข่งขัน เพื่อนำมาใช้พัฒนาการผลิตรถยนต์รุ่นต่างๆ ที่จะขายในตลาดต่อไปในอนาคต”

“นอกจากออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน แล้ว รถยนต์มิตซูบิชิ ทุกรุ่น ล้วนได้รับการพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของดีเอ็นเอสายเลือดแชมป์แรลลี่ จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นสู่ชัยชนะและความทุ่มเทสู่การเป็นแชมป์ คือพลังขับเคลื่อนการพัฒนารถยนต์ทุกรุ่นของเรา เพราะชัยชนะของเราคือชัยชนะของทุกคน รวมถึงลูกค้าของเราด้วย รถยนต์เหล่านี้ได้รับการจัดแสดงที่งาน Big Motor Sale 2023 ทั้งออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน และรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ของเราที่มีมาตรฐานคุณภาพสูงสุด ได้แก่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต อีลีท และ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส” มร. โคอิโตะ กล่าวเพิ่มเติม

ไฮไลท์ภายในงาน Big Motor Sale 2023 คือ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ซึ่งได้รับการสร้างสรรค์ใหม่ทั้งคันด้วยการหลอมรวมความเป็น “ที่สุด” แห่งดีเอ็นเอของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors-ness) เพื่อมอบความปลอดภัย มั่นใจ และสะดวกสบายในการขับขี่ภายใต้สภาพอากาศและสภาพถนนที่หลากหลาย ทั่วโลก ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน มาพร้อมการออกแบบใหม่ทั้งหมดที่สะท้อนความทรงพลัง มีขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้น แข็งแกร่งยิ่งกว่า และโครงสร้างเมกาเฟรมที่มีน้ำหนักเบา เติมเต็มความสมบูรณ์แบบด้วยเครื่องยนต์คลีนดีเซลไฮเปอร์เพาเวอร์ มีพละกำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร มอบอัตราเร่งและสมรรถนะที่เป็นเลิศ พร้อมความประหยัดน้ำมัน ภายในห้องโดยสารใช้วัสดุคุณภาพสูงที่ออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ของมิตซูบิชิ มอบความสวยงามผสานความสะดวกสบาย ใช้งานง่ายและทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน เจนเนอเรชั่นที่ 6 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะปฏิวัติวงการรถกระบะและสร้างมาตรฐานใหม่สำหรับรถกระบะระดับโลกอย่างแท้จริง

หนึ่งในรุ่นย่อยที่ได้รับการจัดแสดงคือ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นดับเบิ้ล แค็บ พลัส 2.4 อัลตร้า เกียร์อัตโนมัติ โดดเด่นด้วยตัวถังที่แข็งแกร่งบึกบึน สไตล์เส้นสายแนวราบ และการผสมผสานไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบ LED เข้ากับไฟส่องสว่างหน้าแบบมัลติโปรเจคเตอร์ LED เพื่อความทันสมัยและทรงพลัง ภายในห้องโดยสารไม่เพียงมีระบบชาร์จไร้สาย ยังมีเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสคมชัดระดับ Full HD ขนาด 9 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay แบบไร้สาย และ Android Auto เสริมสมรรถนะการขับขี่ด้วยระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย แบบควบคุมด้วยเบรก(Limited Slip Differential – Brake Control Type) ระบบความปลอดภัยเพียบพร้อมด้วยถุงลม 7 ตำแหน่ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (Active Stability Control: ASC) และระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล (Traction Control System: TCL) รวมถึงระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก (Anti-lock Braking System: ABS) ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Brakeforce Distribution: EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist: BA) นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill-Start Assist: HSA) และระบบความปลอดภัยขั้นสูง ‘DIAMOND SENSE’ ประกอบด้วยระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (Forward Collision Mitigation: FCM) ระบบปรับระดับไฟสูง-ต่ำอัตโนมัติ (Auto High Beam: AHB) ระบบสัญญาณเตือนจุดอับสายตา พร้อมระบบเตือนขณะเปลี่ยนเลน (Blind Spot Warning with Lane Change Assist: BSW with LCA) ระบบเตือนด้านหลังขณะถอยออกจากช่องจอด (Rear Cross Traffic Alert: RCTA) และกล้องมองภาพรอบคัน (Multi Around Monitor: MAM)

รุ่นดับเบิ้ลแค็บที่จัดแสดงอีกรุ่นหนึ่ง คือ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นดับเบิ้ล แค็บ 2.4 ไพร์ม ขับเคลื่อน 4 ล้อ ซึ่งมาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ “SUPER SELECT 4WD II” ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ นอกจากนี้ ยังเป็นรถกระบะคันแรกในประเทศไทยที่ผสานระบบ Active Yaw Control (AYC) ที่ช่วยเพิ่มความสมดุลขณะเข้าโค้ง โดยระบบจะควบคุมการทำงานของล้อด้านในโค้งกับล้อด้านนอกโค้งให้หมุนสัมพันธ์กัน เพื่อรักษาเสถียรภาพการเข้าโค้งอย่างแม่นยำ ควบคู่ไปกับโหมดการขับขี่ 7 โหมด สิ่งเหล่านี้มอบความสามารถในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยม ดีเยี่ยมทั้งออนโรดและออฟโรด ทำให้มั่นใจ ขับสนุกและปลอดภัยมากขึ้นทุกการเดินทาง

อีกหนึ่งรุ่นย่อยคือ ออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน รุ่นซิงเกิ้ล แค็บ 2.4 โปร เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Easy Select 4WD พร้อมระบบลิมิเต็ดสลิปที่เฟืองท้าย แบบควบคุมด้วยเบรก(Limited Slip Differential – Brake Control Type) ภายในห้องโดยสารมีระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto เบาะนั่งตกแต่งด้วยวัสดุบุนุ่มระดับพรีเมียม ระบบความปลอดภัยได้แก่ถุงลม 3 ตำแหน่ง ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว(Active Stability Control: ASC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล(Traction Control System: TCL) ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อก(Anti-lock Braking System: ABS) ระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Brakeforce Distribution: EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (Brake Assist: BA) รวมถึงระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill-Start Assist: HSA) สีภายนอกมีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว Solid White สีเงิน Blade Silver สีเทา Graphite Gray และสีดำ Jet Black Mica

ภายในบูธยังมี มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต 2.4D 4WD Elite Edition โดดเด่นด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD-II อันเป็นเอกลักษณ์ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา “ออล วีล คอนโทรล” (All Wheel Control: AWC) สุดอัจฉริยะ ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ขับขี่สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับเคลื่อนจากแบบ 2 ล้อ เป็นระบบขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อได้ในทันที แม้ในขณะที่ตัวรถกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง และยังสามารถคงการขับเคลื่อนแบบ 4 ล้อได้อย่างต่อเนื่องในความเร็วสูง ซึ่งแตกต่างอย่างโดดเด่นจากระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ทั่วๆ ไป ทั้งยังช่วยเสริมสมรรถนะการเกาะถนนและการทรงตัว ให้ควบคุมตัวรถได้ง่ายดายและคล่องตัวบนทุกสภาพถนน รวมถึงถนนที่เปียกหรือลื่น เติมเต็มประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและรื่นรมย์ สุดมั่นใจและปลอดภัยยิ่งกว่าโดยเฉพาะขณะที่ขับขี่ด้วยความเร็วสูง และยังช่วยลดความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าในขณะที่เดินทางระยะไกล ซึ่งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ สุดอัจฉริยะ ระดับตำนานของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส นี้ ก็เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่อยู่ใน ออล-นิว ไทรทัน เช่นกัน

มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต 2.4D 4WD Elite Edition มาพร้อมกับขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.4 MIVEC ให้กำลังสูงสุด 181 แรงม้า ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด พร้อม Sport Mode และ Paddle Shift ช่วงล่างโครงสร้างคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลงทั้ง 4 ล้อ ภายนอกโดดเด่นด้วยกระจังหน้าพร้อมแผงตกแต่งใต้กันชนหน้าและหลังสีดำ ยกระดับสมรรถนะการขับขี่ด้วยระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Super Select 4WD ll พร้อมเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-time All Wheel Control เพิ่มความปลอดภัยบนถนนลื่น ขับสนุก ลุยได้ทุกเส้นทาง นอกจากนี้ยังมีระบบ เทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคัน All-Round Advanced Safety Technology ภายในห้องโดยสารเต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพกับระบบเครื่องเสียงพรีเมียม Mitsubishi Power Sound System เบาะหนังสังเคราะห์พร้อมคุณสมบัติสะท้อนความร้อน QUOLE MODURE ระบบดันหลังปรับด้วยไฟฟ้าด้านผู้ขับขี่ และเทคโนโลยีระบบปรับอากาศ nanoeTMX ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ตลอดทุกเส้นทาง

มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส รถยนต์รุ่นยอดนิยมก็ได้รับการจัดแสดงภายในบูธเช่นกัน ผสานความสมบูรณ์แบบระหว่างดีไซน์ที่โดดเด่นและรองรับการใช้งานอย่างเต็มที่ นิยามของความลงตัวระหว่างรถเอสยูวีและรถครอสโอเวอร์ ใช้วัสดุคุณภาพสูงระดับพรีเมียมที่มอบสไตล์ที่สะดุดตาและความสปอร์ตทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายในห้องโดยสาร มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส มาพร้อมระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) มอบการขับขี่ที่มีเสถียรภาพด้วยการควบคุมพละกำลังและแรงดันเบรกทั้งล้อด้านในและด้านนอกขณะเข้าโค้ง เพื่อยกระดับความปลอดภัยและการยึดเกาะถนน รวมถึงระบบความปลอดภัยมาตรฐานอื่นๆ ได้แก่ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว(Active Stability Control: ASC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล(Traction Control System: TCL) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน(Hill-Start Assist: HSA) ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ (Emergency Stop Signal System: ESS) ถุงลมนิรภัยคู่หน้า คานเหล็กนิรภัยกันกระแทกด้านข้างประตู และการปกป้องคนเดินถนน มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ครอส มาพร้อมระยะความสูงใต้ท้องรถ 220 มม. ซึ่งสูงที่สุดในระดับเดียวกัน จึงเป็นรถยนต์ 7 ที่นั่งระดับพรีเมียมที่สมบูรณ์แบบสำหรับครอบครัวทันสมัยและผู้ขับขี่ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งและการผจญภัย

นอกจากนี้ยังมีแคมเปญพิเศษ ‘Early Bird Package’ สำหรับลูกค้าที่จองออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ภายในงานนี้ เพื่อเพิ่มความสนุกในการเป็นเจ้าของรถกระบะรุ่นใหม่ก่อนใคร โดยสามารถเลือกรับฟรีอุปกรณ์ตกแต่งแท้หรือรับสิทธิพิเศษสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์เสริม สำหรับลูกค้าที่จองออล-นิว มิตซูบิชิ ไทรทัน ก่อนวันที่ 31 สิงหาคม 2566 และรับรถภายในวันที่ 31 ตุลาคม 2566 จะได้รับสิทธิพิเศษดังนี้

  • ฟรี ชุดแพ็คเกจอุปกรณ์ตกแต่งแท้ “TRAIL PACKAGE” สำหรับรุ่นดับเบิ้ล แค็บ ยกสูง และ 4WD
  • การสนับสนุนค่าใช้จ่าย “WHEEL & TIRE PACKAGE” สำหรับการซื้อและติดตั้งล้ออัลลอย และ/หรือเปลี่ยนยางรถยนต์ มูลค่าสูงสุดไม่เกิน 20,000 บาท สำหรับรุ่นซิงเกิ้ล แค็บ

ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมบูธ A04 ของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ที่งาน Big Motor Sale 2023 ระหว่างวันที่ 25 สิงหาคม ถึง 3 กันยายน 2566 ที่ฮอลล์ EH101-104 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมและการทดลองขับ กรุณาเข้าชมเว็บไซต์ www.mitsubishi-motors.co.th หรือติดต่อ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ ได้ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง โทร. 02-079-9500

Previous
Next

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว “เอ็มแคร์” โปรแกรมบริการหลังการขาย ภายใต้สโลแกน “เอ็มแคร์ ดูแลกันยาวๆ” มอบสิทธิพิเศษมัดใจลูกค้า

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว เอ็มแคร์ (M-Care) โปรแกรมบริการหลังการขาย ภายใต้สโลแกน เอ็มแคร์ ดูแลกันยาวๆ พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่นำรถมารับบริการเช็คระยะ ด้วยแนวคิด “ยิ่งเข้าเช็คระยะต่อเนื่อง ยิ่งได้รับสิทธิพิเศษมากกว่า”

นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานขาย บริการหลังการขาย และการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ให้ความสำคัญต่อการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าในด้านบริการหลังการขาย โดยเอ็มแคร์ ถือเป็นการต่อยอดจากงานบริการที่เรามอบให้แก่ลูกค้าตลอดมา ด้วยมาตรฐานการบริการที่ยอดเยี่ยม นำเสนออะไหล่แท้ ให้บริการโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการ ด้วยเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่ารถยนต์มิตซูบิชิทุกคันจะพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ด้วยค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง และประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น

ลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ ที่เป็นสมาชิก “เอ็มแคร์” จะได้รับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษสำหรับการใช้บริการในครั้งต่อไป ตามระดับของสมาชิกที่แบ่งออกเป็น 6 ระดับ ตั้งแต่ระดับ Silver ไปจนถึงระดับ Platinum+ โดยลูกค้าจะได้รับการเลื่อนระดับสมาชิกเพื่อรับสิทธิพิเศษที่เพิ่มมากขึ้น ตามจำนวนครั้งที่นำรถเข้ารับบริการเช็คระยะต่อเนื่อง ณ ศูนย์บริการมาตรฐานของผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ทั้งนี้ ลูกค้ารถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี จะได้รับสิทธิพิเศษเป็นสมาชิกเอ็มแคร์ ระดับ Platinum+ ซึ่งเป็นสมาชิกระดับสูงสุดตลอดการใช้งาน  เพื่อสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนเป็นกลางอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ สมาชิก “เอ็มแคร์” จะประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 6 ระดับ ดังนี้

  • ระดับ Silver (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 5 – 6 ครั้ง)
  • ระดับ Silver+ (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 7- 8 ครั้ง)
  • ระดับ Gold (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 9 – 10 ครั้ง)
  • ระดับ Gold+ (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 11 – 12 ครั้ง)
  • ระดับ Platinum (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 13 – 14 ครั้ง)
  • ระดับ Platinum+ (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 15 ครั้ง ขึ้นไป)

พิเศษสำหรับช่วงเปิดตัวโปรแกรม เอ็มแคร์ (M-Care) ลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน M-Drive เพื่อเป็นสมาชิก เอ็มแคร์และรับสิทธิพิเศษ ได้ที่ http://www.mitsubishi-motors.co.th/th/m-drive-application  และเมื่อเข้ารับบริการหลังการขาย ณ ศูนย์บริการมิตซูบิชิ ลูกค้าจะได้รับคูปองส่วนลดจากทุกการใช้จ่ายครบทุก 500 บาท สำหรับอะไหล่ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์หล่อลื่น อุปกรณ์ตกแต่ง โดยข้อเสนอสุดพิเศษนี้ สำหรับลูกค้ามิตซูบิชิ ที่เป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น ตั้งแต่วันนี้ ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2566 พร้อมติดตามสิทธิพิเศษต่างๆ จากโปรแกรม เอ็มแคร์ ได้ที่เว็บไซต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย https://www.mitsubishi-motors.co.th  ติดต่อสอบถามข้อมูลที่ศูนย์บริการมิตซูบิชิ ทั่วประเทศ หรือมิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดให้บริการทุกวัน ระหว่างเวลา 8:30 – 17:00 น.