All NEW Mitsubishi TRITON 2023 ตอบโจทย์ความเป็นรถกระบะสำหรับคนยุคใหม่
All NEW Mitsubishi TRITON 2023 ราคาเริ่ม 699,000 บาท เปิดตัวในไทยที่แรกในภูมิภาคอาเซียน
สำหรับ All-new Mitsubishi Triton โฉมใหม่ล่าสุด ได้รับการพัฒนาต่อเนื่องมาเป็นเจเนอเรชันที่ 6 แล้ว โดยถือเป็นการปรับแบบโมเดลเชนจ์ครั้งแรกในรอบ 9 ปี
ในระยะแรก มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ ถูกเปิดตัวทั้งหมด 2 ตัวถัง คือ Single Cab และ Double Cab รวมทั้งสิ้น 8 รุ่นย่อย โดยมีราคาจำหน่ายแต่ละรุ่นย่อย ดังนี้
รุ่น Single Cab
- 2.4 PRO 4WD ราคา 699,000 บาท
- 2.4 PRO 4WD AT ราคา 749,000 บาท
รุ่น Double Cab ยกสูง
- PLUS 2.4 PRO ราคา 820,000 บาท
- PLUS 2.4 PRIME ราคา 893,000 บาท
- PLUS 2.4 PRIME AT ราคา 938,000 บาท
- PLUS 2.4 ULTRA ราคา 982,000 บาท
- PLUS 2.4 ULTRA AT ราคา 1,027,000 บาท
รุ่น Double Cab ขับเคลื่อนสี่ล้อ
- 2.4 PRIME 4WD ราคา 1,016,000 บาท
ALL NEW MITSUBISHI TRIRON มาพร้อมดีไซน์ที่โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน ทั้งการพัฒนาเฟรมหรือโครงรถใหม่ แชสซีส์ใหม่ ช่วงล่างใหม่ และเครื่องยนต์ใหม่ ภายใต้แนวคิด “พลังแกร่งคู่ใจสายลุย (Power for Adventure) ออกแบบมาพร้อมแนวคิดที่เรียกว่า Best Mode ที่สะท้อนความบึกบึนและทรงพลัง
ด้านหน้ายังมาในแบบไดนามิค ชิลด์ กระจังหน้าและซุ้มล้อแบบสามมิติ ไฟส่องสว่างแบบ LED ดีไซน์โฉบเฉี่ยว กระบะท้ายได้รับการออกแบบมาให้มีพื้นที่กว้างมากยิ่งขึ้น เสริมไฟท้ายรูปตัว T(T-shaped LED)ทั้งสองฝั่ง บริเวณกระบะท้ายถูกออกแบบให้มีความสูงของกระบะจากพื้นต่ำลงจากรุ่นก่อน 45 มิลลิเมตร อยู่ที่ 820 มิลลิเมตร พร้อมขยายพื้นที่ด้านบนของมุมกันชนหลังให้ใหญ่ขึ้น และเสริมความแข็งแรงด้วยเฟรมเพื่อให้วางเท้าและก้าวขึ้นกระบะได้อย่างสะดวก ช่วงล่างที่เน้นการขับขี่ที่นุ่มนวล เกาะถนน พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ และระบบควบคุมการขับขี่ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ รองรับสภาพการขับขี่บนถนนทุกรูปแบบ
ด้านเครื่องยนต์ All NEW Mitsubishi TRITON นั้นติดตั้งเครื่องยนต์คลีนดีเซล Hyper Power แบบ 4 สูบ Commonrail VG Turbo Intercooler ความจุ 2.4 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,250 – 2,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ พร้อมระบบ Auto Stop & Go เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และเกียร์ธรรมดา 6 สปีด มีช่องวางแก้วขนาดใหญ่ 2 ใบ กล่องเก็บของที่รองรับขวดพลาสติก 600 มล. ได้มากถึง 4 ขวด มีช่อง USB-A และ USB-C สำหรับชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงแท่นชาร์จไร้สาย (Wireless Charger) อยู่ที่ด้านล่างของแผงควบคุม ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ถูกติดตั้งระบบ Super Select 4WD-II ที่มีโหมดการขับขี่ให้เลือก 4 โหมด พร้อมระบบระบบควบคุมการขับเคลื่อนและสมดุลขณะเข้าโค้ง (Active Yaw Control: AYC) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน โดยโหมดการขับขี่ทั้ง 4 โหมด ประกอบด้วย
– 2H ขับเคลื่อนล้อหลัง
– 4H ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
– 4HLc ระบบล็อกเฟืองท้ายกลาง
– 4LLc ระบบล็อกเฟืองท้ายกลางอัตราทดความเร็วต่ำ
พร้อมด้วยโหมดการขับขี่ใหม่ 7 โหมด ครอบคลุมการขับขี่ทั้งแบบออนโรด และแบบออฟโรด ประกอบด้วย Normal, Eco, Gravel หรือ ทางลูกรัง, Snow ถนนลื่น พื้นปกคลุมด้วยหิมะ หรือขณะฝนตกหนัก, Mud ลุยโคลน, Sand ลุยพื้นทราย และ Rock พื้นหินตะปุ่มตะป่ำ