มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว “เอ็มแคร์” โปรแกรมบริการหลังการขาย ภายใต้สโลแกน “เอ็มแคร์ ดูแลกันยาวๆ” มอบสิทธิพิเศษมัดใจลูกค้า

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว เอ็มแคร์ (M-Care) โปรแกรมบริการหลังการขาย ภายใต้สโลแกน เอ็มแคร์ ดูแลกันยาวๆ พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่นำรถมารับบริการเช็คระยะ ด้วยแนวคิด “ยิ่งเข้าเช็คระยะต่อเนื่อง ยิ่งได้รับสิทธิพิเศษมากกว่า”

นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานขาย บริการหลังการขาย และการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ให้ความสำคัญต่อการสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าในด้านบริการหลังการขาย โดยเอ็มแคร์ ถือเป็นการต่อยอดจากงานบริการที่เรามอบให้แก่ลูกค้าตลอดมา ด้วยมาตรฐานการบริการที่ยอดเยี่ยม นำเสนออะไหล่แท้ ให้บริการโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการ ด้วยเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่ารถยนต์มิตซูบิชิทุกคันจะพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ด้วยค่าบำรุงรักษาที่ไม่แพง และประสบการณ์การใช้งานที่ราบรื่น

ลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ ที่เป็นสมาชิก “เอ็มแคร์” จะได้รับส่วนลดหรือสิทธิพิเศษสำหรับการใช้บริการในครั้งต่อไป ตามระดับของสมาชิกที่แบ่งออกเป็น 6 ระดับ ตั้งแต่ระดับ Silver ไปจนถึงระดับ Platinum+ โดยลูกค้าจะได้รับการเลื่อนระดับสมาชิกเพื่อรับสิทธิพิเศษที่เพิ่มมากขึ้น ตามจำนวนครั้งที่นำรถเข้ารับบริการเช็คระยะต่อเนื่อง ณ ศูนย์บริการมาตรฐานของผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด ทั้งนี้ ลูกค้ารถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี จะได้รับสิทธิพิเศษเป็นสมาชิกเอ็มแคร์ ระดับ Platinum+ ซึ่งเป็นสมาชิกระดับสูงสุดตลอดการใช้งาน  เพื่อสนับสนุนการใช้รถยนต์ไฟฟ้า และขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวสู่สังคมคาร์บอนเป็นกลางอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ สมาชิก “เอ็มแคร์” จะประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 6 ระดับ ดังนี้

  • ระดับ Silver (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 5 – 6 ครั้ง)
  • ระดับ Silver+ (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 7- 8 ครั้ง)
  • ระดับ Gold (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 9 – 10 ครั้ง)
  • ระดับ Gold+ (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 11 – 12 ครั้ง)
  • ระดับ Platinum (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 13 – 14 ครั้ง)
  • ระดับ Platinum+ (เมื่อเข้ารับบริการเช็กระยะต่อเนื่อง 15 ครั้ง ขึ้นไป)

พิเศษสำหรับช่วงเปิดตัวโปรแกรม เอ็มแคร์ (M-Care) ลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน M-Drive เพื่อเป็นสมาชิก เอ็มแคร์และรับสิทธิพิเศษ ได้ที่ http://www.mitsubishi-motors.co.th/th/m-drive-application  และเมื่อเข้ารับบริการหลังการขาย ณ ศูนย์บริการมิตซูบิชิ ลูกค้าจะได้รับคูปองส่วนลดจากทุกการใช้จ่ายครบทุก 500 บาท สำหรับอะไหล่ เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์หล่อลื่น อุปกรณ์ตกแต่ง โดยข้อเสนอสุดพิเศษนี้ สำหรับลูกค้ามิตซูบิชิ ที่เป็นบุคคลธรรมดาเท่านั้น ตั้งแต่วันนี้ ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2566 พร้อมติดตามสิทธิพิเศษต่างๆ จากโปรแกรม เอ็มแคร์ ได้ที่เว็บไซต์ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย https://www.mitsubishi-motors.co.th  ติดต่อสอบถามข้อมูลที่ศูนย์บริการมิตซูบิชิ ทั่วประเทศ หรือมิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดให้บริการทุกวัน ระหว่างเวลา 8:30 – 17:00 น.

มิตซูบิชิไทรทัน ดับเบิ้ลแค็บ พลัส ขึ้นแท่นคว้า “อันดับ 1 รถใหม่คุณภาพสูง”

มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส คว้าอันดับ 1 รถใหม่คุณภาพสูง จากการสำรวจ เจ.ดี พาวเวอร์ ประจำปี 2565 (J.D. Power 2022 Thailand Initial Quality Study หรือ IQS) ตอกย้ำจุดแข็งในฐานะสุดยอดรถคุณภาพในกลุ่มรถกระบะ 4ประตู 

การสำรวจคุณภาพรถใหม่ในประเทศไทยของ เจ.ดี. พาวเวอร์ ประจำปี 2565 จัดทำขึ้นระหว่างเดือนพฤษภาคม ถึงเดือนกันยายน 2565 ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของผู้ซื้อรถยนต์ใหม่ จำนวน 5,419 คนในช่วงเวลา 6 เดือน ระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2564 ถึงเดือนสิงหาคม 2565 ครอบคลุมทั้งรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถกระบะ และรถอเนกประสงค์ทั้งหมด 77รุ่น จาก 11 ยี่ห้อ

นางสาวมณีณัฐฐา จิระเสวีจินดา ผู้อำนวยการงานวิจัยฝ่ายยานยนต์ส่วนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นีสเส็น ไอคิว กล่าวว่า “มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส ได้รับการจัดอันดับสูงสุดให้เป็นสุดยอดรถคุณภาพ ในกลุ่มรถกระบะ 4 ประตู ซึ่งได้รับความพึงพอใจจากผู้ขับขี่ด้วยจุดเด่นหลายประการที่ยอดเยี่ยมกว่าค่าเฉลี่ยของรถกระบะในกลุ่มเดียวกัน เช่น ควบคุมง่าย ขับขี่สบายและคล่องตัว รวมถึงห้องโดยสาร มีการป้องกันเสียงรบกวนอย่างดี รวมถึงมีสัญญาณคลื่นวิทยุที่ชัดเจน”

มิตซูบิชิ ไทรทัน ดับเบิ้ล แค็บ พลัส เป็นรถที่ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ผู้ขับขี่ด้วยฟังก์ชันการทำงานที่ครบครัน  ผสานความแข็งแกร่งทนทาน สมรรถนะการขับขี่เหนือชั้นลุยได้ทุกสภาพถนน ระบบความปลอดภัยล้ำสมัย มั่นใจได้ทุกเส้นทางด้วยเทคโนโลยีขับเคลื่อน 4 ล้อ “ซูเปอร์ซีเล็คต์ โฟร์วีลไดรฟ์ II” (Super Select 4WD II) อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส จากผลสำรวจของ เจ.ดี. พาวเวอร์ ในครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องยืนยันความสำเร็จได้เป็นอย่างดี และสะท้อนความมุ่งมั่นของมิตซูบิชิ มอเตอร์ ที่ทุ่มเทสร้างสรรค์ยานยนต์คุณภาพสูง ด้วยสมรรถนะการขับขี่เป็นเลิศ พร้อมความปลอดภัยที่เหนือกว่า

ยางรถยนต์แตกลายงาเกิดจากอะไร จำเป็นต้องเปลี่ยนเลยหรือไม่?

ยางแตกลายงาคือ ร่องรอยที่เกิดขึ้นบริเวณหน้ายางและแก้มยาง เป็นรอยร้าวขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วไป สามารถเกิดขึ้นได้กับยางทุกประเภท ทั้งรถยนต์และรถมอเตอร์ไซด์ ไม่เว้นแม้รถจักรยาน ส่วนมากจะพบรอยแตกในยางที่มีอายุการใช้งานมาหลายปี หรือจอดทิ้งไว้กลางแดดร้อนๆเป็นเวลานาน ลักษณะแบบนี้เรียกว่า Aging หรือยางที่มีอายุมาก

สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการแตกลายงา คือความร้อนจากแสงแดดมากระทบกับพื้นคอนกรีต ทำให้อุณหภูมิที่พื้นสูง ส่งผลให้สารเคมีในเนื้อยางเกิดการเสื่อมสภาพ ทำให้ยางยืดหดตัวและเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นอากาศ ทำให้เนื้อยางแตกร้าว

จำเป็นต้องเปลี่ยนหรือไม่ แนะนำให้พิจารณาจาก 3 ปัจจัยต่อไปนี้

  1. ความลึกของรอยแตกลายงา หากยากแตกลึกจนเห็นโครงสร้างภายใน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้ายางหรือแก้มยาง ก็ถือว่าเป็นอันตรายมาก ควรนำรถเข้ารับการเปลี่ยนยางโดยเร็ว
  2. พิจารณาประกอบกับอายุของยาง ควรเปลี่ยนยางที่อายุเกิน 3 ปี หรือผ่านการขับขี่มากกว่า 50,000 กิโลเมตร ยิ่งมีร่องรอยแตกลายงา แสดงว่ายางนั้นเสื่อมสภาพแล้ว
  3. พิจารณาประกอบกับความลึกของยาง หากดอกยางมีความลึกน้อยกว่า 1.6 มิลลิเมตร แสดงว่าได้เวลาเปลี่ยนยางเส้นใหม่ สามารถวัดได้โดยใช้เกจวัดความลึกของร่องดอกยาง หาซื้อได้ทั่วไปตามร้านอะไหล่ หรือง่ายกว่านั้นให้ใช้เหรียญบาทเสียบไปในร่องยาง หากความลึกน้อยกว่าครึ่งของเหรีญบาท แสดงว่ายากสึกหรอต้องเปลี่ยน

รถติดไฟแดง เกียร์ออโต้ต้องเข้าเกียร์อะไร ระหว่าง N กับ P ?

การหยุดรอสัญญาณไฟแดง เป็นการหยุดเพียงไม่กี่วินาที หากเราติดไฟแดงไม่นาน ประมาณ 10-30 วินาที อาจไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเกียร์ แต่ต้องระมัดระวังเหยียบเบรกไว้ตลอดเวลา  แต่ถ้าต้องติดเป็นเวลานาน 1-2 นาทีอาจเปลี่ยนจากเกียร์ D มาเป็น N ได้พร้อมกับดึงเบรกมือไว้ป้องกันรถไหล

ส่วนเกียร์ P ไว้สำหรับการจอดที่ดับเครื่องยนต์เมื่อเราถึงจุดหมายปลายทางแล้ว อาจไม่ถูกต้องนักถ้าจะเข้าเกียร์ P ขณะติดไฟแดง เพราะรถจะไม่สามารถขยับได้หากเกิดอุบัติเหตุมีรถคันอื่นมาชนท้าย นอกจากรถเราจะเสียหายแล้ว อาจทำให้ชุดเกียร์พังได้เช่นกัน 

Warranty Plus โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ

WARRANTY PLUS โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ

MITSUBISHI MOTORS WARRANTY PLUS โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ

Warranty Plus โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ

MITSUBISHI MOTORS WARRANTY PLUS โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ

รับประกันคุณภาพรวมสูงสุดนาน 7 ปี หรือ 150,000 กม. (แล้วแต่ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน)
เราดูแล … คุณแค่ขับ

สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่น ให้คุณหมดกังวลเรื่องค่าซ่อมหลังสิ้นสุดระยะการรับประกันมาตรฐาน ด้วยโปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ ราคาพิเศษ เพื่อดูแลรถยนต์มิตซูบิชิที่คุณรักให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ พร้อมพาคุณสู่ทุกจุดหมายอย่างที่ใจต้องการ

Mitsubishi Motors Warranty Plus

โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ รวมสูงสุด 7 ปี หรือ 150,000 กม* สำหรับลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ ที่ยังอยู่ในระยะรับประกันมาตรฐานที่บริษัทฯกำหนด

โดยลูกค้าสามารถซื้อการรับประกันคุณภาพเพิ่มเติมภายใน 6 เดือน หรือ 10,000 กม.* นับตั้งแต่วันที่ออกรถ หรือก่อนสิ้นสุดระยะรับประกันมาตรฐาน โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพชิ้นส่วนรถจะครอบคลุมชิ้นส่วนสำาคัญ 14 กลุ่มหลัก โดยสามารถเลือกซื้อการรับประกันคุณภาพเพิ่มเติมตามรูปแบบการใช้รถที่เหมาะสม ทั้งแบบเพิ่มเติม 1 ปี หรือ 25,000 กม.* หรือเพิ่มเติม 2 ปี หรือ 50,000 กม.*

*แล้วแต่ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน

สิทธิประโยชน์จาก Mitsubishi Motors Warranty Plus

• หมดกังวลด้วยการรับประกันคุณภาพที่ยาวนานยิ่งขึ้น
• ลดภาระค่าใช้จ่ายเมื่อต้องนำรถเข้าซ่อม
• ไม่จำกัดจำนวนครั้งในการซ่อม และครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการซ่อมตามเงื่อนไขการรับประกัน
• ได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องทันทีเมื่อระยะรับประกันมาตรฐานสิ้นสุดลง
• สามารถใช้สิทธิการเข้ารับบริการได้ที่ศูนย์บริการมิตซูบิชิทั่วประเทศ

สำหรับรถที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 6 เดือน หรือ 10,000 กม*  (นับตั้งแต่วันที่ลูกค้ารับมอบรถยนต์จากผู้จำหน่าย)

รุ่นรถ1 ปี หรือ 25,000 กม.*2 ปี หรือ 50,000 กม.*
MIRAGE7,990 บาท11,990 บาท
ATTRAGE7,990 บาท11,990 บาท
XPANDER9,990 บาท14,990 บาท
TRITON11,990 บาท18,990 บาท
PAJERO SPORT13,990 บาท22,990 บาท

สำหรับรถที่มีอายุการใช้งานเกิน 6 เดือน หรือ 10,000 กม.* แต่ไม่เกิน 5 ปี หรือ 100,000 กม.* (นับตั้งแต่วันที่ลูกค้ารับมอบรถยนต์จากผู้จำหน่าย)

รุ่นรถ1 ปี หรือ 25,000 กม.*2 ปี หรือ 50,000 กม.*
MIRAGE9,990 บาท13,990 บาท
ATTRAGE9,990 บาท13,990 บาท
XPANDER11,990 บาท17,990 บาท
TRITON13,990 บาท21,990 บาท
PAJERO SPORT16,990 บาท25,990 บาท

*แล้วแต่ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน

หมายเหตุ
• ราคาจำหน่ายข้างต้นรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว ประกาศ ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2562
• รถที่เข้าร่วมรายการต้องเป็นรถมิตซูบิชิ ที่ออกโดยผู้จำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ซึ่งได้เข้ารับการเช็กระยะตามเวลาและมาตรฐานที่บริษัทกำหนด ทั้งนี้สามารถดูรายละเอียดได้จากสมุดรับบริการและคู่มือการใช้รถ



มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบส่วนลด 30%

ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

มิตซูบิชิ รองรับน้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้แล้ววันนี้

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบส่วนลด 30%

ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากพายุโซนร้อน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส มอบความห่วงใย

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มอบส่วนลด 30% เมื่อเข้ารับบริการ เพื่อร่วมแบ่งเบาภาระลูกค้าผู้ประสบอุทกภัย

บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด  ร่วมกับเครือข่ายผู้จำหน่าย มอบความห่วงใยและพร้อมให้บริการภายใต้สโลแกน ‘เราดูแล คุณแค่ขับ’ แก่ลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ ซึ่งประสบอุทกภัยจากอิทธิพลพายุโพดุลในหลายจังหวัด รวมถึงพายุอื่นๆ ที่กำลังจะเข้ามายังประเทศไทย โดยการมอบส่วนลดพิเศษ 30% สำหรับอะไหล่ เคมีภัณฑ์ น้ำมันหล่อลื่น และค่าแรง  เมื่อเข้ารับบริการซ่อมบำรุงที่ศูนย์บริการมิตซูบิชิ เพื่อร่วมแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้าผู้ประสบอุทกภัยตามพื้นที่ที่รัฐบาลประกาศให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติ  ตั้งแต่ 3 กันยายน – 30 พฤศจิกายน 2562

สำหรับลูกค้าผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ผู้จำหน่ายรถยนต์มิตซูบิชิ ทั่วประเทศ หรือ มิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ หมายเลขโทรศัพท์ 02-079-9500 เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 8:30-17:00 น.

มิตซูบิชิ รองรับน้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้แล้ววันนี้

มิตซูบิชิ รองรับน้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้แล้ววันนี้

มิตซูบิชิ รองรับน้ำมันไบโอดีเซล B20

รถยนต์ มิตซูบิชิ รองรับน้ำมันไบโอดีเซล B20 ได้แล้ววันนี้

วิธีตรวจสอบรุ่นรถมิตซูบิชิ รุ่นปาเจโร สปอร์ต และ ไทรทันที่รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี20

รุ่นรถยนต์รหัสเลขเครื่องยนต์
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต*sเครื่องยนต์ที่ขึ้นต้นด้วยรหัสเลขเครื่องยนต์ 4N15 และ 4D56
มิตซูบิชิ ไทรทัน*1. เครื่องยนต์ที่ขึ้นต้นด้วยรหัสเลขเครื่องยนต์ 4N15
2. เครื่องยนต์ที่ขึ้นต้นด้วยรหัสเลขเครื่องยนต์ 4D56 ยกเว้น แบบรหัสรุ่น KA4TNCNMFRU และ KA4TNENMFRU

* รถยนต์มิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน และ ปาเจโร สปอร์ต เครื่องยนต์ที่ขึ้นต้นด้วยรหัสเลขเครื่องยนต์ 4M41 ไม่รองรับ การใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20

คำแนะนำการใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 กับรถยนต์มิตซูบิชิที่รองรับ

  • การใช้น้ำมันไบโอดีเซล B20 ในบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า 16 องศาเซลเซียส อาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของเครื่องยนต์ ดังนั้น ก่อนการใช้งานกรุณาขอคำแนะนำจากศูนย์บริการมิตซูบิชิที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
  • ลูกค้าจะต้องใช้น้ำมันที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมธุรกิจพลังงานเท่านั้น

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับน้ำมันดีเซล บี20 สามารถดูได้ที่ กรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน

วิธีที่ 1 เช็กด้วยตนเอง จากเอกสารประจำรถยนต์

1.1 เช็กจากสมุดรายการจดทะเบียน

1.2 เช็กจากสมุดคู่มือการใช้รถ

กรณี 1 เลขเครื่องยนต์ ขึ้นต้นด้วยรหัส 4N15 รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี20

กรณี 2 เลขเครื่องยนต์ ขึ้นต้นด้วยรหัส 4D56 รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี20 *ยกเว้น แบบรหัสรุ่น KA4TNCNMFRU และ KA4TNENMFRU ที่ไม่รองรับการใช้น้ำมันไบโอดีเซล บี20

หรือ วิธีที่ 2 เช็กผ่านระบบ กรอก แบบรหัสรุ่น เพื่อความมั่นใจ

สามารถตรวจสอบผ่านระบบ กรอก แบบรหัส เพื่อความมั่นใจ ผ่าน https://www.mitsubishi-motors.co.th/th/b20#vcheck